ปัจจุบันเด็กติดเชื้อเอชไอวีที่เกิดขึ้นใหม่ บางส่วนอาจจะเสียชีวิต หรือติดเชื้อจากแม่ และบางส่วนเด็กก็จะกำพร้าพ่อ-แม่ตั้งแต่อายุยังน้อย เพราะเด็กบางคนไม่ได้ติดเชื้อแต่กำเนิดจากแม่ที่ติดเชื้อ แต่ปัจจุบันมีการใช้ยาต้านไวรัสป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก ทำให้มีอัตราเด็กติดเชื้อแรกเกิดใหม่ลดลงมาก
เชื้อเอชไอวี คือ ไวรัสที่จะเข้าไปกัดกินทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่อง
โรคเอดส์ คือ กลุ่มอาการของการติดเชื้อโรคแทรกซ้อนต่างๆ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่งกายถูกเชื้อเอชไอวีทำลายจนไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกายเหล่านี้ได้
สาเหตุของการติดเชื้อเอชไอวีในเด็ก
มาจากปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการแพร่เชื้อไปยังเด็กมากที่สุด คือ ปริมาณของเชื้อไวรัสเอชไอวีในเลือดของแม่โดยเฉพาะช่วงที่ตั้งครรภ์ ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่พบได้ เช่น ระยะโรคที่เป็นมาก ปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำ มีการติดเชื้อฉวยโอกาส การสูบบุหรี่ ภาวะซีด หรือการขาดวิตามินเอของหญิงตั้งครรภ์ การที่ลูกคลอดก่อนกำหนด การคลอดทางช่องคลอด และการทำสูติศาสตร์หัตถการบางอย่าง เช่น การเจาะถุงน้ำคร่ำ การช่วยคลอดด้วยคีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศ เป็นต้น รวมถึงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อีกด้วย
การถ่ายทอดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูกได้ทางไหนบ้าง
ทารกมีโอกาสได้รับเชื้อจากแม่ที่ติดเชื้อเอชไอวี ได้ 3 ทาง คือ
- ขณะตั้งครรภ์
- ระหว่างคลอด
- หลังคลอด ผ่านทางการกินนมแม่
โอกาสลูกติดเชื้อ HIV จากแม่ ขณะคลอด
- แม่ที่ไม่ได้กินยาต้านไวรัสเลย ลูกมีโอกาสติดเชื้อ 1 ใน 4
- แม่ที่ได้กินยาต้านไวรัส อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนคลอด ลูกโอกาสติดเชื้อประมาณ 10%
- แม่ที่กินยาต้านไวรัส มากกว่า 4 สัปดาห์ก่อนคลอด โอกาสที่ลูกจะติดเชื้อเหลือน้อยกว่า 2%
- เด็กทุกรายที่ติดเชื้อ HIV ในปัจจุบัน เกิดจาก แม่ไม่ได้ฝากท้อง จึงติดเชื้อขณะคลอด เมื่อคลอดแล้ว มีการตรวจถึงมารู้ว่าตนเองติดเชื้อ แม่จึงหมดโอกาสปกป้องลูกจากการติดเชื้ออย่างน่าเสียดายมาก
การดูแลเด็กที่ติดเชื้อเอชไอวี มีหลักปฏิบัติอย่างไรบ้าง ?
- เด็กที่ติดเชื้อต้องดูแลสุขภาพทั่วไปให้มีสุขอนามัยที่ดี เพื่อลดความเสี่ยงต่อ การเจ็บป่วยซ้ำเติม เพราะภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกาย อาจจะไม่ปกติในบางช่วงได้
- สุขอนามัยควรเริ่มปฏิบัติตั้งแต่วัยทารก ให้อาหารที่สะอาดเพียงพอ ครบทุกหมู่ ระวังอาหารหวาน และการคานมขวดจนหลับ เพราะมักเป็นสาเหตุของภาวะฟันผุอย่างแรงได้ การรักษาสุขอนามัยทั่วไป เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน ตัดเล็บ ล้างมือ ต้องเน้นย้ำมากกว่าปกติ แนะนำให้ดื่มน้ำสุกเสมอ และไม่ให้เลี้ยงสัตว์เลี้ยงที่ต้องมีการสัมผัส เช่น สุนัข แมว
- ควรส่งเสริมให้เด็กออกกำลังกาย และมีกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย ไปโรงเรียนตามปกติ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบว่าเป็นโรคนี้ แต่ต้องหลีกเลี่ยงภาวะที่ต้องมีการกระทบกระแทกมีเลือดออก เด็กเหล่านี้สามารถเล่นกีฬาได้ แต่ไม่ควรเล่นกีฬาที่อาจมีการกระทบกระแทกร่างกายได้
- การฝึกระเบียบวินัยเป็นเรื่องสำคัญ เพราะต้องกินยาอย่างเคร่งครัด ตรงเวลาตลอดชีวิต การเลี้ยงดูแบบเอาอกเอาใจเกินไป หรือแบบไม่สนใจ จะทำให้เด็กมีปัญหาในการดูแลตนเองต่อไป เด็กที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเหมาะสม สามารถปรับตัวเองในการกินยาได้ดี
- ในเด็กเล็กคำอธิบายที่เหมาะสมกับวัยให้เข้าใจว่าทำไมต้องกินยาโดยยังไม่ต้องบอกชื่อโรค จะช่วยให้เด็กร่วมมือดีขึ้น ความรักความอบอุ่นในครอบครัว จะลดปัญหาการต่อต้านได้ บางครั้งยาที่ใช้ต้องเป็นยาเม็ด ต้องมีการตัดแบ่งหรือบด จำเป็นต้องมีการฝึกสอนให้ผู้ปกครองทำได้อย่างถูกต้อง การกินยาให้ถูกต้องจะลดโอกาสที่เกิดเชื้อดื้อยาได้มาก
เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีจะมีโอกาสใช้ชีวิตแบบเด็กปกติได้หรือไม่ ?
แนวทางการดูแลเด็กเหล่านี้ คือ ทำให้เด็กมีชีวิตใกล้เคียงกับเด็กปกติมากที่สุด แม้ยาต้านไวรัสทำให้เด็กมีชีวิตยืนยาวจนโตได้ แม้ว่าเด็กที่ติดเชื้อบางคนยังมีความเจ็บป่วย ผ่ายผอม และมีสภาพร่างกายที่ไม่ปกติ
แต่เด็กจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มที่เกิดมาในช่วงที่มียาต้านไวรัสใช้ จะดูภายนอกเหมือนเด็กปกติทุกประการ สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนปกติ แต่ต้องกินอย่างเคร่งครัดและมาติดตามการรักษาอย่างสม่ำเสมอ
พ่อ แม่ป่วย HIV มีลูกได้ไหม ลูกจะติดเชื้อหรือไม่?
พ่อ หรือแม่ที่ติดเชื้อ HIV มีลูกได้อย่างปลอดภัยโดยทารกที่เกิดมาไม่ติดเชื้อเอชไอวีตามพ่อและแม่ได้
ผู้ติดเชื้อ HIV ก็มีลูกอย่างปลอดภัยได้
ผู้ติดเชื้อ HIV ก็มีลูกอย่างปลอดภัยได้ นั่นเป็น เพราะยาที่ใช้รักษาการติดเชื้อ HIV ที่ช่วยป้องกันการส่งผ่านเชื้อไปยังคู่ของตน
เหตุผลทางการแพทย์ว่าการติดเชื้อ HIV ไม่ว่าทาง
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การใช้ของมีคมหรือใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
- การติดเชื้อจากแม่สู่ลูก
การติดเชื้อเอชไอวีไม่ใช่โรคที่น่ารังเกียจ แต่เป็นโรคเรื้อรังที่ต้องรักษาด้วยการกินยาไปตลอดชีวิต และถึงจะไม่มีวันหายจนกลายเป็นโรคเรื้อรัง แต่สามารถควบคุมและจัดการให้มีชีวิตยืนยาวใกล้เคียงคนปกติได้
การปกป้องเด็กไม่ให้ติดเชื้อ คือ แม่ต้องกินยาต้านไวรัสตั้งแต่ตอนตั้งครรภ์ ดังนั้นการฝากครรภ์ตั้งแต่ช่วงแรกๆ แม่ท้องจะได้รับการตรวจ รู้เร็ว ได้กินยาเร็ว โอกาสที่ลูกจะติดเชื้อน้อยกว่า 1% หรือจะเรียกว่าแทบจะไม่ติดเชื้อเลยก็ได้ และตัวแม่เองก็มีชีวิตยืนยาวได้ปกติด้วย
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ :
- ยาป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีจากแม่สู่ลูก กับความก้าวหน้าในวันนี้
https://www.si.mahidol.ac.th/siriraj_online/thai_version/Health_detail.asp?id=833 - เมื่อเอดส์เกิดมากับลูกน้อย
https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=702 - 24 ปีแห่งความก้าวหน้า พ่อ แม่ป่วย HIV มีลูกได้ แนะวิธีไม่ให้ติดเชื้อ ผู้ติดเชื้อ HIV ก็มีลูกอย่างปลอดภัยได้
https://www.thairath.co.th/scoop/1716445