
กรุงเทพฯ ในฐานะมหานครศูนย์กลางเศรษฐกิจและสังคมของไทย เป็นพื้นที่ที่ผู้คนจากทั่วทุกภูมิภาคเดินทางเข้ามาเรียน ทำงาน และใช้ชีวิตร่วมกัน เมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรมและไลฟ์สไตล์นี้ กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญ โดยเฉพาะโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ Sexually Transmitted Infections (STI) ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา “สถิติ STI ในกรุงเทพ” กลายเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนทั้งปัญหาและทิศทางการรับมือในอนาคต
เนื้อหาสำคัญ
สถานการณ์ล่าสุดของสถิติ STI ในกรุงเทพ
ข้อมูลจาก สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ปี 2567 ระบุว่า มีรายงานผู้ป่วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์รวม กว่า 10,800 ราย โดยโรคที่พบมากที่สุดคือ ซิฟิลิส รองลงมาคือ หนองใน หนองในเทียม และ หูดอวัยวะเพศ
สิ่งที่น่ากังวลคือ กว่า 70% ของผู้ป่วยอยู่ในช่วงอายุ 15–24 ปี ซึ่งเป็นวัยที่เพิ่งเริ่มต้นชีวิตทางเพศ ข้อมูลนี้สะท้อนชัดว่ากรุงเทพฯ ยังมี “ช่องว่าง” ในการให้ความรู้ การเข้าถึงบริการ และการป้องกันในกลุ่มเยาวชน 【สถิติอ้างอิงจาก กทม. 2567】
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบบ่อยที่สุด
เมื่อเจาะลึกลงไปในโรคที่พบมากที่สุดจะเห็นภาพที่น่าสนใจ ซิฟิลิสกลายเป็นโรคที่มีอัตราการรายงานสูงที่สุดในกรุงเทพฯ โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดห้าปีที่ผ่านมา โรคนี้ไม่เพียงแต่กระทบต่อผู้ป่วยโดยตรง แต่ยังนำไปสู่ปัญหาใหญ่ที่เรียกว่า “ซิฟิลิสแต่กำเนิด” หากหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาและถ่ายทอดเชื้อต่อไปยังทารก นอกจากนั้นหนองในและหนองในเทียมก็ยังเป็นโรคที่พบมาก โดยมีลักษณะเฉพาะคือผู้ติดเชื้อจำนวนมากไม่แสดงอาการ ส่งผลให้โรคแพร่กระจายได้ง่ายและมักถูกตรวจพบในภาวะแทรกซ้อน เช่น การอักเสบของอุ้งเชิงกรานหรือภาวะมีบุตรยาก ส่วนหูดอวัยวะเพศที่เกิดจากเชื้อ HPV แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นใจของผู้ป่วย และยังเกี่ยวพันกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดหากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม
แนวโน้มสถิติ STI ในกรุงเทพ
หากมองภาพรวมจะเห็นว่าแนวโน้มโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในกรุงเทพฯ ยังคงสูงขึ้น โดยซิฟิลิสมีแนวโน้มเป็นโรคหลักที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หนองในและหนองในเทียมแสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น ขณะที่โรคจากเชื้อไวรัส เช่น HPV แม้ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่สร้างภาระทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้ชี้ว่ากรุงเทพฯ ยังคงต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นและต่อเนื่องในการควบคุมการแพร่ระบาด
ตารางสรุป “โรคยอดฮิตในกรุงเทพฯ” (อัปเดตถึงต้น–กลางปี 2025)
| โรค | สถานะในกรุงเทพฯ | ตัวชี้วัด/อัตรา (ล่าสุดที่สื่อทางการอ้าง) | แหล่งอ้างอิง |
|---|---|---|---|
| ซิฟิลิส | พบบ่อยที่สุดในเมือง | ~60 ต่อ 100,000 (3,677 ราย) | Bangkok Post |
| หนองใน | รองจากซิฟิลิส | ~24.97 ต่อ 100,000 | Bangkok Post |
| หูดหงอนไก่ | ติด Top 3 | (ไม่มีตัวเลขเดียวกันในข่าว) | Bangkok Post |
| ภาพรวม 5 STI หลัก (ทั้งประเทศ) | สูงสุดในรอบ 10 ปี ปี 2566 | ~53 ต่อ 100,000 | HIV Info HUB |
| เอชไอวี (บริบทกรุงเทพฯ/ประเทศ) | เยาวชนเป็นสัดส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อใหม่ | ดูแฟกต์ชีต/อนุกรมข้อมูลปี 2023 | HIV Info HUB |
ปัจจัยที่ขับเคลื่อนความเสี่ยง
กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยการเคลื่อนย้ายของผู้คน ทั้งจากการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยว ทำให้การแพร่กระจายของโรคเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีสถานบันเทิงและพื้นที่พบปะที่เอื้อต่อความสัมพันธ์ชั่วคราวหรือความสัมพันธ์แบบไม่ประจำ ซึ่งสัมพันธ์กับการไม่ใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญวัฒนธรรมการตรวจสุขภาพทางเพศยังไม่แข็งแรงพอ หลายคนยังรู้สึกอายหรือติดกับความคิดว่าการตรวจโรคเหล่านี้เป็นเรื่องน่าอับอาย ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าถึงบริการตรวจและรักษายังไม่มากพอที่จะลดการแพร่เชื้อได้จริง
ปัจจัยที่ทำให้กรุงเทพฯ มีความเสี่ยงสูง
- การตรวจสุขภาพทางเพศยังไม่เป็นเรื่องปกติ หลายคนยังรู้สึกอายและกังวลเรื่องการถูกตีตรา
- การเคลื่อนย้ายประชากรจำนวนมาก ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน และนักท่องเที่ยว
- สถานบันเทิงและพื้นที่พบปะ ที่เอื้อต่อการสร้างความสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ
- ขาดการใช้ถุงยางอนามัยอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน
แนวทางป้องกันและรับมือ

ทางออกของกรุงเทพฯ ไม่ได้อยู่เพียงการรักษา แต่ต้องเริ่มต้นจากการป้องกัน การขยายบริการตรวจและรักษาในรูปแบบที่เข้าถึงง่าย เช่น คลินิกในชุมชน หน่วยตรวจเคลื่อนที่ หรือระบบนัดหมายออนไลน์ จะช่วยให้ผู้คนกล้าเข้ารับบริการมากขึ้น การรณรงค์ใช้ถุงยางอนามัยอย่างต่อเนื่องเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญ เช่นเดียวกับการผลักดันวัคซีน HPV ให้ครอบคลุมทั้งผู้หญิงและผู้ชายเพื่อป้องกันโรคหูดและมะเร็งที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้การให้ความรู้ในสถานศึกษาและที่ทำงานแบบไม่ตีตรายังคงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง
แนวโน้มอนาคต กับ สถิติ STI ในกรุงเทพ
หากกรุงเทพฯ ไม่ดำเนินมาตรการเข้มข้นเพียงพอ ตัวเลขสถิติ STI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่หากสามารถสร้างความเข้าใจให้ประชาชนมองว่าการตรวจสุขภาพทางเพศเป็นเรื่องปกติ และสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างสะดวก เช่น Walk-in Clinic หรือการจองตรวจออนไลน์ พร้อมทั้งแจกจ่ายถุงยางและสื่อสารเรื่องเพศอย่างไม่ตีตรา ก็มีโอกาสที่จะลดการแพร่เชื้อได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
คำถามที่พบบ่อย
Q1: ทำไมซิฟิลิสถึงขึ้นอันดับหนึ่งในกรุงเทพฯ?
A: หลังโควิดการตรวจกลับมาคึกคัก ขณะเดียวกันพฤติกรรมเสี่ยงและการใช้ถุงยางไม่สม่ำเสมอยังมีอยู่ ทำให้ตัวเลขรายงานเพิ่มขึ้น และภาพรวมประเทศก็สูงสุดในรอบสิบปีในปี 2566 ด้วย HIV Info HUB
Q2: กลุ่มไหนควรตรวจ STI บ่อยที่สุด?
A: วัยรุ่น–นักศึกษา และ MSM ควรตรวจทุก 3–6 เดือน หรือทุกครั้งที่มีคู่นอนใหม่/ไม่ใช้ถุงยางอย่างสม่ำเสมอ (แนวทางไทย 2567 สนับสนุนการคัดกรองตามความเสี่ยง) ThaiJo
Q3: หูดหงอนไก่ในกรุงเทพฯ ป้องกันได้อย่างไร?
A: วัคซีน HPV + ถุงยาง ลดความเสี่ยงได้ดีมาก การผลักดันวัคซีนในเพศชายช่วยลดภาระโรคทั้งในระยะสั้นและยาว (ดูบริบทในข่าว/รายงานของไทย) Bangkok Post
Q4: หนองในดื้อยาแก้อย่างไร?
A: รักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติไทย 2567, งดใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ, และส่งตรวจยืนยันดื้อยาเมื่อเข้าเกณฑ์ ThaiJo
Q5: เยาวชนกรุงเทพฯ ทำไมยังติด HIV สูง?
A: หลายคนยังเข้าถึง PrEP/ถุงยาง/การตรวจซ้ำไม่พอ การสื่อสารต้องไม่ตีตราและบริการต้องเข้าถึงง่าย เช่น คลินิกเย็น-สุดสัปดาห์, นัดออนไลน์, Telehealth; แฟกต์ชีตไทยชี้เยาวชนเป็นสัดส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศต่อเนื่อง
สถิติ STI ในกรุงเทพสะท้อนถึงความท้าทายทางสาธารณสุขที่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม และหูดอวัยวะเพศเป็นโรคที่พบบ่อยที่สุด กลุ่มเสี่ยงหลักยังคงเป็นวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น การป้องกันและการตรวจอย่างสม่ำเสมอคือคำตอบที่จะช่วยลดอัตราการติดเชื้อได้ หากกรุงเทพฯ สามารถสร้างระบบบริการที่เข้าถึงง่าย ไม่ตีตรา และสนับสนุนการป้องกันอย่างจริงจัง แนวโน้มในอนาคตยังมีความหวังที่จะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง และสร้างสังคมเมืองที่ปลอดภัยและใส่ใจสุขภาพทางเพศมากยิ่งขึ้น
แหล่งอ้างอิง
- “Sexually transmitted diseases surge among young” – Bangkok Post. แสดงว่าอัตรา STI ในวัยรุ่นเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา. Bangkok Post
- “Thailand saw the syphilis infection rate rise from 11 per 100,000 in 2018 to 18.6 in 2022 … congenital syphilis also surged from 25.1 to 98.2 per 100,000.” – Public Relations Department (Thailand). รัฐบาลไทย
- “Thailand & Bangkok rise in sexually transmitted infections crisis among young … syphilis and gonorrhoea cases increasing.” – HealthDeliver.asia. HealthDeliver
- “STD Rate in Thailand: Understanding and Importance of Testing” – MedConsultAsia. สรุปโรคยอดฮิตในไทย เช่น ซิฟิลิส หนองใน หนองในเทียม. MedConsult Clinic
- “Prevalence of sexually transmitted infections incidence in young Thai men …” – งานวิจัยระบุอัตรา STI ในกลุ่มชายไทยรุ่นใหม่. PubMed+1



