การป้องกันเอชไอวี หรือป้องกันเอดส์นั้น สามารถทำได้โดยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
เนื้อหาสำคัญ
การใช้ถุงยางอนามัย
เนื่องจากถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการติดเชื้อเอดส์ได้ แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธี ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ ทั้งเพศสัมพันธ์แบบชายกับหญิงหรือชายกับชาย ไม่ใช้ถุงยางอนามัยซ้ำ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำกิจกรรมทางเพศร่วมกับผู้อื่น ใช้สารหล่อลื่นประกอบกิจกรรมทางเพศเพื่อลดแรงเสียดทานซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดบาดแผลมีเลือดออก หรือการฉีกขาดของถุงยางอนามัย
การใช้ยาเพร็พ PrEP
เพร็พ (PrEP) ย่อมาจาก Pre-Exposure Prophylaxis การป้องกันโรคก่อนได้รับเชื้อ นี่คือวิธีการป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อเอชไอวีโดยการทานยาวันละหนึ่งเม็ดทุกวัน หากคุณไม่รับประทานยาทุกวันคุณอาจจะไม่ได้รับการป้องกันจากเชื้อเอชไอวีได้ดีนัก
ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
ไม่ใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้อื่น หรือมีการเปลี่ยนเข็มฉีดยาใหม่ทุกครั้งที่ใช้งาน
การใช้ยาเป๊ป (PEP) ยาต้านไวรัส HIV แบบฉุกเฉิน
ยาเป๊ป (PEP) ก็คือ Post-Exposure Prophylaxis เป็นยาต้านไวรัส HIV หลังผ่านการสัมผัสเชื้อมาแล้ว จึงเรียกกันว่า เป็นยาต้านไวรัส HIV แบบฉุกเฉิน ในสูตรยาจะประกอบไปด้วยยาต้านไวรัสประมาณ 3 ชนิด หากใครมีปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจำเป็นต้องทานยาเป๊ป (PEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อให้เร็วที่สุดภายใน 72 ชั่วโมง ก็ยังต้องทานยาเป๊ปต่อเนื่องไปอีกเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งเมื่อเริ่มยา แพทย์จะตรวจหาเชื้อเอชไอวีก่อน และให้มาตรวจหาเชื้ออีกครั้งหลังผ่านไป 3 เดือน และ 6 เดือน
หากเรามีความเสี่ยง หรือเปลี่ยนคู่นอนก็ควรจะต้องมีการเรียนรู้ที่จะป้องกัน และตรวจเอชไอวีเป็นประจำทุกปีหรือหลังมีความเสี่ยง