หลายๆคนยังเข้าใจผิดว่า เอชไอวีและเอดส์ เป็นสิ่งเดียวกัน หากใครก็ตามที่ติดเอชไอวีแล้วก็จะเป็นเอดส์ และมักจะเรียกผู้ติดเชื้อเอชไอวีว่า เอดส์อยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นความเข้าใจผิดมาโดยตลอด
โดยจริงๆ แล้ว เอชไอวีและเอดส์ (HIV/AIDS) ไม่เหมือนกัน และมีความแตกต่างกันและใช้เรียกต่างกัน วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเอชไอวีและเอดส์
เนื้อหาสำคัญ
เอชไอวี คืออะไร
เอชไอวี หรือ HIV (Human Immunodeficiency Virus)เป็น เชื้อไวรัส เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยไวรัส HIV จะไปทำลายเซลล์เม็ดเลือดขาว CD4 หรือ T Cells ซึ่ง ตัว CD4 เหล่านี้มหน้าที่ต่อสู้กับเชื้อโรคและป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อ ต่างๆ เมื่อ CD4 ในร่ายกายเราลดน้อยลง ร่างกายจะอ่อนแอลงไปด้วย ติดเชื้อและเจ็บป่วยได้ง่าย และมีโอกาสเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้
เอดส์ คืออะไร
เอดส์ (AIDS) ย่อมาจาก Acquired Immune Deficiency Syndrome คือ อาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากรับเชื้อ HIV เข้าไป และไม่ได้รับการรักษา โดยกลุ่มอาการของโรคที่เกิดจากการติดเชื้อเอชไอวี (HIV) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกเชื้อไวรัสทำลายจนร่างกายของผู้ป่วยไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคทั้งหลายที่เข้าสู่ร่างกายได้ และทำให้เกิดการเจ็บป่วยและโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย หรือที่เราเรียกว่า เกิดโรคฉวยโอกาศนั่นเอง เช่น
- การติดเชื้อราทำให้เกิดการอักเสบในเนื้อเยื่อปาก ลิ้น หลอดอาหาร หรือช่องคลอด
- การติดเชื้อไซโตเมกะโลไวรัสที่เป็นอันตรายต่อดวงตา ระบบทางเดินอาหาร ปอด หรืออวัยวะอื่น ๆ
- วัณโรค
เอชไอวีและเอดส์ต่างกันอย่างไร
หากผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี ไม่จำเป็นจะต้องเป็นโรคเอดส์เสมอไป เพราะหากตรวจพบว่าติดเชื้อได้เร็วผ่านการตรวจเลือด สามารถรักษาได้ด้วยการทานยาต้านไวรัส เมื่อทำการรักษาแล้ว อาจไม่สามารถตรวจพบเชื้อเอชไอวีในร่างกายได้อีก เมื่อตรวจไม่เจอก็เท่ากับไม่แพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้
จะเห็นว่าเอชไอวีและเอดส์ (HIV/AIDS) ไม่เหมือนกัน เมื่อเรารับเชื่อ HIV เข้าสู่ร่างกาย และมีการตรวจเอชไอวีพบตั้งแต่เนิ่น ๆ และเราเข้าสู่กระบวนการการรักษาทันที ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง เชื้อ HIVนั้นก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเอดส์ได้